วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ปลูกผักอินทรีย์ไม่ใช้สารเคมี ปลูกง่ายรายได้ดี ความต้องการสูง

ผักอินทรีย์

ผักอินทรีย์เป็นผักที่ผลิตจากวัตถุธรรมชาติ 100% ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี และปุ๋ยเคมี ทุกขั้นตอนการผลิตปลอดสารพิษ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้สารเคมีกำจัดโรคและแมลง ไม่ใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์ ไม่ใช้เมล็ดพันธุ์ดัดแปลงพันธุกรรม ลดปริมาณสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่จะปนเปื้อนเข้าไปในอากาศและน้ำ ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ทำให้ได้พืชผักที่มีคุณภาพ ไม่มีสารพิษตกค้าง เกิดความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค

วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ปลูกมะกรูดอาชีพเสริมรายได้เสริมหลักหมื่นต่อเดือน

ปลูกมะกรูด

คุณอุ้ย อายุ 34 ปี เขาเป็นเจ้าของสถานตรวจสภาพรถ อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี พร้อมๆ กับปลูกมะกรูดไปด้วยภายในอู่ซ่อมรถ ซึ่งเขาใช้วิธีปลูกระยะชิด 50X50 ซม. ระยะนี้ปลูกเต็มพื้นที่ 1 ไร่ จะได้ 4,000 ต้น ปัจจุบันปลูกมะกรูด 2 ไร่ ก็ 8,000 ต้น ระยะเวลา 8 เดือน มะกรูดจะโตเต็มวัย จากนั้นทุกๆ 2 เดือนสามารถตัดขายได้ แต่ละรอบ ให้ผลผลิตราว 1 – 1.5 ตัน ด้านราคาขายถ้าแบบมีก้านติด กิโลกรัมละ 7-15 บาท ขายเฉพาะใบล้วนๆ กิโลกรัมละ 40-60 บาท ราคาดังกล่าวปรับขึ้น – ลง ตามฤดูกาล

ปลูกมะกรูด
ปลูกมะกรูดอาชีพเสริมรายได้เสริมหลักหมื่นต่อเดือน

การเตรียมดินสำหรับปลูกมะกรูด

การปลูกมะกรูดต้องมีการเตรียมดินเหมือนพืชไม้ผลทั่วๆ ไป เพราะเป็นพื้นอายุยืนอยู่ได้หลายปี โดยเริ่มจากการไถดิน ไถดะ และไถแปร ชักร่องปล่อยน้ำ ขนาดความกว้างของร่อง 2.5-3 เมตร ขุดหลุมกว้าง x ยาว x ลึก ประมาณ 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก และปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 100 กรัมต่อหลุม หรือหากจะปลูกแบบไม่ต้องยกร่องหลังจากเตรียมดินแล้วใช้ระยะปลูกระหว่างต้น 2.5-3 เมตร ระหว่างแถว 2.5-3 เมตร ขนาดหลุม และทำการใส่ปุ๋ยเหมือนกัน รดน้ำให้ชุ่มก่อนปลูก

ปลูกมะกรูดอาชีพเสริมรายได้เสริมหลักหมื่นต่อเดือน

ปลูกมะกรูด

คุณอุ้ย อายุ 34 ปี เขาเป็นเจ้าของสถานตรวจสภาพรถ อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี พร้อมๆ กับปลูกมะกรูดไปด้วยภายในอู่ซ่อมรถ ซึ่งเขาใช้วิธีปลูกระยะชิด 50X50 ซม. ระยะนี้ปลูกเต็มพื้นที่ 1 ไร่ จะได้ 4,000 ต้น ปัจจุบันปลูกมะกรูด 2 ไร่ ก็ 8,000 ต้น ระยะเวลา 8 เดือน มะกรูดจะโตเต็มวัย จากนั้นทุกๆ 2 เดือนสามารถตัดขายได้ แต่ละรอบ ให้ผลผลิตราว 1 – 1.5 ตัน ด้านราคาขายถ้าแบบมีก้านติด กิโลกรัมละ 7-15 บาท ขายเฉพาะใบล้วนๆ กิโลกรัมละ 40-60 บาท ราคาดังกล่าวปรับขึ้น – ลง ตามฤดูกาล

ปลูกมะกรูด
ปลูกมะกรูดอาชีพเสริมรายได้เสริมหลักหมื่นต่อเดือน

การเตรียมดินสำหรับปลูกมะกรูด

การปลูกมะกรูดต้องมีการเตรียมดินเหมือนพืชไม้ผลทั่วๆ ไป เพราะเป็นพื้นอายุยืนอยู่ได้หลายปี โดยเริ่มจากการไถดิน ไถดะ และไถแปร ชักร่องปล่อยน้ำ ขนาดความกว้างของร่อง 2.5-3 เมตร ขุดหลุมกว้าง x ยาว x ลึก ประมาณ 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก และปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 100 กรัมต่อหลุม หรือหากจะปลูกแบบไม่ต้องยกร่องหลังจากเตรียมดินแล้วใช้ระยะปลูกระหว่างต้น 2.5-3 เมตร ระหว่างแถว 2.5-3 เมตร ขนาดหลุม และทำการใส่ปุ๋ยเหมือนกัน รดน้ำให้ชุ่มก่อนปลูก

จุดเริ่มต้นที่หันมาปลูกมะกรูด

เพียงอยากจะมีรายได้เสริม แต่มีเงื่อนไข 4 ข้อ คือ 1.ต้องเป็นไม้ยืนต้นที่ไม่ต้องรื้อและปลูกใหม่ 2.ต้องสามารถทำได้บนพื้นที่ 1 ไร่ เพราะเดิมที่ดินมีแค่นี้ 3.ต้องเป็นพืชที่ไม่ถูกบีบเรื่องระยะเวลาการเก็บเกี่ยวและผลผลิตเสียหายง่าย  4.ต้องสามารถทำเองคนเดียวได้ จาก 4 เงื่อนไขดังกล่าวจึงมองว่า “มะกรูด” เป็นพืชที่น่าสนใจ เพราะใช้พื้นที่น้อยการจัดการบริหารพื้นที่ไม่ยุ่งยากมากนัก ถ้ามีการวางระบบการจัดการที่ดี สามารถทำคนเดียวได้ปัจจุบันปลูกมะกรูดได้ 3 ปี กลับกลายเป็นรายได้ที่ทำเงินมากกว่าที่คิดไว้เลย

มะกรูดทั่วประเทศไทยนั้นมีแค่พันธุ์เดียวเท่านั้น

ไม่มีหลายสายพันธุ์เหมือนมะนาวหรือไม้ผลชนิดอื่น ที่เราเห็นบางที่ใบใหญ่ใบเล็กนั้นเป็นที่การดูแลบำรุงรักษา หรือมะกรูด บางต้นมีหนาม บางต้นไม่มีหนาม คือจริง ๆ แล้วอย่างเรื่องของหนามมะกรูดนั้น ถ้าเอาเมล็ดมะกรูดมาเพาะแล้วตอนกิ่งจากต้นเพาะเมล็ดออกมาหนามมะกรูดจะมีหนามสั้นลงเหลือเพียงเล็กน้อย

มะกรูดสร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำแก่หลายๆ คนมาแล้ว

 บางคนถึงขนาดตั้งตัวได้ สำหรับ “มะกรูด” พืชในตระกูลส้มเพราะเป็นพืชที่ขายง่าย ตลาดมีความต้องการทุกวัน  ขนาดคุณอุ้ย หรือคุณพิบูลศักดิ์ ละออง เจ้าของสถานตรวจสภาพรถ อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี ยังเอ่ยปากชมว่า “มะกรูด” สร้างรายได้ให้ไม่แพ้งานประจำ

ก่อนเริ่มปลูกมะกรูด

เดิมผมปลูกมะนาวนอกฤดู  เพราะเมื่อปี  55 ได้ไปอบรมเรื่องการปลูกมะนาว ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมะนาวนอกฤดู ราคาดีลูกละ 7-10 บาท แต่ทว่ามะนาวนอกฤดูเก็บได้เพียงปีละครั้ง 1 ไร่ปลูกได้เพียง 100กว่าต้น ผลผลิตได้ไม่ถึง 1,000ลูก แถมมีต้นตายบ้าง หนที่สุดเลยหันมาปลูกมะกรูดทดแทน”

วิธีการปลูกมะกรูด

เริ่มที่การเตรียมดินโดยหว่านปอเทืองเพื่อทำปุ๋ยพืชสดครับ จากนั้นทำแปลงลูกฟูก สูงไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร  กว้าง 1.2 เมตร ครับ มีระยะห่างระหว่างต้น 50 เซนติเมตร ปลูกแบบสลับฟันปลา โดย 1 ไร่จะปลูกได้ถึง 4,000 ต้นเลยล่ะคร้าบบบบ สำหรับการปลูกมะกรูดที่ขาดไม่ได้คือระบบน้ำที่ดี มะกรูดเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำแฉะ จึงใช้ระบบสปริงเกอร์ วิธีนี้สามารถควบคุมการให้น้ำได้ดี ยังช่วยไล่ศัตรูพืชอย่างเพลี้ยไฟ แต่ผลเสียน้ำที่ค้างติดใบอาจนำเชื้อโรคอื่นได้ อีกระบบที่นิยมคือแบบน้ำหยด ลดปัญหาเชื้อโรค สะดวกในการให้ปุ๋ยผ่านน้ำ โดยจะรดน้ำเฉลี่ย 2 วันต่อครั้ง

สำหรับเงินลงทุนแรกเริ่ม คุณอุ้ย บอกว่า มะกรูดแปลงแรก ลงทุน 1.2 แสนบาท ปลูกได้ 3,300 ต้น ใช้วิธีขยายพันธุ์แบบกิ่งตอน ต่างจาการเพาะมล็ดเกือบ 2 ปีถึงจะเก็บผลผลิตได้ ระยะเวลา 8 เดือน มะกรูดจะโตเต็มวัย จากนั้นทุกๆ 2 เดือนสามารถตัดขายได้

ด้านตลาด ชายหนุ่ม บอกว่า จะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อ ซึ่งมะกรูดจะตัดขาย 2เดือนครั้ง แต่ละครั้งก็ทำเงินให้หลายหมื่นบาท รายได้นับว่าดีในระดับที่น่าพอใจ สำหรับต้นทุนในการลงทุนนั้นปลูกมะกรูดระยะชิดนั้นหากรวมกิ่งพันธุ์และระบบน้ำแล้วจะอยู่ประมาณไร่ละ 1 แสนกว่าบาท ซึ่งนับว่าเป็นการลงทุนที่สูง ดังนั้นเกษตรกรที่สนใจต้องมีการศึกษาให้ดี ส่วนราคาในการขายนั้นจะอยู่ที่คุณภาพของใบมะกรูดและตลาดที่รับซื้อด้วย โดยหากเป็นตลาดระดับล่างก็จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 10-30 บาท แต่หากเป็นตลาดส่งออกก็จะมีราคาที่แพงมากขึ้นอีก

การเก็บเกี่ยวมะกรูด

จะตัดใบทุก 2 เดือนใน 2 ไร่จะเก็บได้เกือบ 2,000 กิโลกรัมเลยล่ะครับ ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 25 บาท รวมแล้วพี่กมลจะมีรายได้ถึง 50,000 บาทเลยล่ะครับ

ปัจจุบันการทำเกษตรของคุณอุ้ยเป็นเพียงอาชีพเสริมเท่านั้น เพราะงานหลักเขา คือ  เป็นเจ้าของสถานตรวจสภาพรถและการเข้ามาสวมบทบาทเกษตรกร เขาหาข้อมูลไว้รอบด้าน

คนที่คิดจะเข้ามาปลูกมะกรูด ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ถ้าอยากจะทำเป็นอาชีพจริงจัง ควรไปดูแปลงจากคนที่ประสบความสำเร็จ ถ้าอยากจะทำเป็นอาชีพเสริม ให้ไปดูคนที่เค้าทำเป็นอาชีพเสริม มันจะได้ตรงตามความคาดหวัง ควรเลือกดูจากแปลงที่มีการบริหารจัดการที่ดี จะได้เอาไปปรับใช้กับแปลงตัวเอง ปัญหาและความผิดพลาดน่ะมันมีทุกแปลง แต่อยู่ที่ว่ารู้ปัญหาแล้วทำให้มันดีขึ้นหรือเปล่า ไม่ใช่ผิดพลาดอยู่ตลอด”

ปัญหาหลังจากที่ปลูกมะกรูด

มีปัญหาเรื่องหญ้า เริ่มแรกใช้ฟาง พอจะคลุมหญ้าได้บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2-3 เดือน หญ้าเริ่มบางลง ต้องเติมฟางเรื่อยๆ ซึ่งฟางราคาค่อนข้างแพง จึงเปลี่ยนมาเป็นผ้าใช้ผ้าสปันบอน เพราะน้ำซึมผ่านได้ ระบายอากาศได้ ใช้ไปประมาณ 6-7 เดือน ผ้าไม่ทนต่อ UV เมื่อขึ้นเฟส 2 จึงหาทางบริหารจัดการกับเรื่องหญ้าให้ได้ จึงยกร่องให้สูงขึ้นกว่าเดิม เพื่อต้องการจะฉีดยาฆ่าหญ้าได้ในร่อง (ในกรณีที่ต้องการฉีด โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อมะกรูด) ปัจจุบันเฟส 2 เรื่องหญ้าแทบไม่มีปัญหาเลย ถ้าไม่อยากให้หญ้าในร่องขึ้นอีก ก็พ่นยาคลุมหญ้าได้ เพราะความสูงของร่องที่ขึ้นไว้สูงกว่ากันถึง 60-70 ซม.เรียกได้ว่าแทบไม่มีผลต่อพืชเลย

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

วิธีปลูกขยายพันธุ์มะเดือฝรั่งสร้างรายได้งาม

อดีตพนักงานบริษัทขายปุ๋ย หันมาเพาะพันธุ์ไม้ประดับขาย ลองผิดลองถูกมาหลายชนิด จนมาประสบความสำเร็จกับการขยายพันธุ์มะเดื่อฝรั่งขาย เตรียมต่อยอด ขายผลสดเป็นสินค้าระดับพรีเมียม และขยายช่องทางการตลาดเปิดขายทางออนไลน์ เมื่อได้ศึกษาจากการปลูกมะเดื่อฝรั่งอย่างจริงจังกลับพบว่าเป็นไม้ผลอีกชนิดหนึ่งที่น่าปลูกและควรส่งเสริมให้เกษตรกรได้มีการขยายพื้นที่ปลูกในอนาคต

มะเดือฝรั่งเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง

พบมากในประเทศตุรกีและกรีก จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นจะเป็นปุ่มแตกกิ่งก้านออก ลำต้นมียางสีขาว ลักษณะของใบเป็นใบเดี่ยวหนาค่อนข้างแข็ง ด้านหนึ่งมีขนอ่อน ส่วนผิวด้านบนจะหยาบ ขอบใบหยักลึก 3-5 หยัก ส่วนผลมะเดื่อจะออกเป็นกระจุก ผลกลมแป้นหรือรูปไข่ มีเปลือกบาง โดยผลอ่อนจะสีเขียว แต่เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีแดง หรือสีชมพู ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ ด้านในมีเนื้อสีแดงเข้ม เมื่อสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม นอกจากนี้มะเดื่อยังจัดเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของประเทศอียิปต์ อิตาลี และกรีซอีกด้วย การรับประทานมะเดื่อฝรั่งแห้งอาจทำให้ฟันผุได้ เนื่องจากมีปริมาณของน้ำตาลสูง และการรับประทานมะเดื่อในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้ท้องร่วงได้เช่นกัน

สรรพคุณและประโยชน์เห็ดหอมเพื่อสุขภาพสูตรบ้านหนองขามพัฒนา

เห็ดหอม ชิตาเกะ (Shiitake)

มีชื่อทับศัพท์เป็นภาษาญี่ปุ่นและชื่อภาษาอังกฤษว่า ชิตาเกะ (Shiitake) เห็ดหอมนอกจากจะเป็นอาหารแสนอร่อยแล้วยังมีคุณค่าสารอาหารและมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลังชั้นดี จนได้ชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ เห็ดหอมกินได้ทั้งดอกสดและดอกแห้ง คนจีนนิยมกินเห็ดหอมเนื้อหนาเก็บในฤดูหนาว ที่เรียกว่า ตังโกว แต่เห็ดหอมสดที่ผลิตได้ในไทยจะมีดอกบาง เนื้อไม่แน่น ไม่เหมาะที่จะทำเป็นเห็ดหอมแห้ง

จากความสนใจเห็ดหอมและการทำอาหารสุขภาพ สมาชิกในครอบครัวรับประทานอาหารมังสวิรัติทำให้ สุมณฑา เหล่าชัย หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเกษตรอินทรีย์ บ้านหนองขามพัฒนา อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด นำเมนูพื้นบ้านอย่างน้ำพริก หรือที่ชาวอีสานเรียกแจ่ว มาลองดัดแปลงปรับสูตรเป็น “แจ่วบองเห็ดหอม” เน้นวัตถุดิบที่กลุ่มปลูกบนแปลงนา เป้าเป็นเมนูอาหารสำหรับผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เกาต์ และไต ได้มีน้ำพริกรับประทานดีต่อสุขภาพ

ผลผลิตดีกำไรงาม เกษตรเคมีสู่วิถีสวนผักชีวภาพประโยชน์แก่ภาคเกษตร

เกษตรเคมีสู่วิถีสวนผักชีวภาพ

เมื่อกล่าวถึง ‘เกษตรแบบเคมี’ หากจะอธิบายเพื่อขยายความให้เข้าใจแล้ว ก็คือระบบการเกษตรที่เน้นผลผลิต โดยมุ่งเน้นให้ได้ผลผลิตที่สูง โดยใช้ ‘สารเคมี’ เข้ามาช่วยในการเร่งผลผลิต รวมถึงการกำจัดศัตรูพืช ซึ่งถือได้ว่าเป็นระบบที่นิยมใช้กับอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน แต่ผลเสียนั้นก็ย่อมมีตามมาเช่นกัน ทั้งเรื่องของสุขภาพของเกษตรกร คุณภาพของดินที่ย่อมลดลงเมื่อใช้สารเคมี และยังส่งผลกระทบไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง

กระทรวงเกษตรฯส่งเสริมความร่วมมือด้านการเกษตร

พร้อมเสนอจัดทำบันทึกความเข้าใจ ส่งเสริมความร่วมมือในการแบ่งปันข้อมูลโดยคุณกนกวรรณ คงจีน เปิดเผยว่าในช่วงที่ทำเกษตรแบบเคมี จะเน้นผลผลิตเป็นหลัก โดยปลูกผักประเภทกะเพรา และโหระพา เมื่อถึงช่วงเก็บเกี่ยวก็จะนำผักไปขายตามแหล่ง ซื้อ-ขาย ที่ใหญ่ๆ อาทิ ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไท แต่ก็ได้ราคาที่ไม่ค่อยน่าพอใจนัก ซึ่งในขณะนั้นไม่ได้คิดที่จะทำเกษตรในแบบอื่นๆ

ในส่วนของถั่วฝักยาวระยะเวลาจากการเพาะปลูกจนถึงช่วงเวลาเก็บเกี่ยวนั้น ประมาณ 30-45 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวเพื่อจำหน่ายได้แล้ว แต่ช่วงที่สำคัญคือช่วงติดดอกต้องพ่นยาแบบชีวภาพ เพื่อป้องกันแมลง ศัตรูพืช โดยตัวยาแบบชีวภาพนั้น จะออกฤทธิ์ในช่วง 2-3 วัน เพื่อป้องกันแมลงก็จะไม่มากัดกินผลผลิต ทั้งนี้ต้องเตรียมพืชที่ปลูกไว้อีก 1-2 แปลง เพื่อให้ผลผลิตมีต่อเนื่อง

โดยถั่วฝักยาวนั้นสามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 1 เดือน ต้นก็จะหมดรุ่นการผลิต ต้องเลือกเก็บต้นที่แน่นๆ ไม่บวมและฝ่อ เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตมาแล้ว ก็จะนำไปล้างทำความสะอาด ก่อนจะบรรจุใส่ถุง ถุงละ 10 กิโลกรัม พร้อมนำเข้าไปแช่ตู้เย็น เนื่องจากหากถั่วฝักยาวอยู่ในสภาพอากาศปกติ จะทำให้บวมและฝ่อ สร้างความเสียหายได้

พัฒนาเกษตรไทยสู่ยุคใหม่มอบกระทรวงเกษตรฯดูแลปัญหาน้ำท่วม

พัฒนาเกษตรไทยกระทรวงเกษตรฯดูแลปัญหาน้ำท่วม

เพราะภาคการเกษตร กระทรวงเกษตรฯ
 (ซึ่งรวมถึงปศุสัตว์ การประมง และเพาะปลูก) เป็นเสมือนกระดูกสันของชาติ ที่ต้องสร้างให้เข้มแข็ง และจะเป็นหลักในการผลักดันการฟื้นฟูและเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยแบบยั่งยืนและไม่กระจุกตัว (เฉพาะที่ศูนย์กลาง) และภาคเกษตรเข้มแข็มจะสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจชนบทและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งมองว่าเป็นปัญหาโครงการสังคมไทยในปัจจุบัน