มะเดือฝรั่งเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง
พบมากในประเทศตุรกีและกรีก จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นจะเป็นปุ่มแตกกิ่งก้านออก ลำต้นมียางสีขาว ลักษณะของใบเป็นใบเดี่ยวหนาค่อนข้างแข็ง ด้านหนึ่งมีขนอ่อน ส่วนผิวด้านบนจะหยาบ ขอบใบหยักลึก 3-5 หยัก ส่วนผลมะเดื่อจะออกเป็นกระจุก ผลกลมแป้นหรือรูปไข่ มีเปลือกบาง โดยผลอ่อนจะสีเขียว แต่เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีแดง หรือสีชมพู ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ ด้านในมีเนื้อสีแดงเข้ม เมื่อสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม นอกจากนี้มะเดื่อยังจัดเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของประเทศอียิปต์ อิตาลี และกรีซอีกด้วย การรับประทานมะเดื่อฝรั่งแห้งอาจทำให้ฟันผุได้ เนื่องจากมีปริมาณของน้ำตาลสูง และการรับประทานมะเดื่อในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้ท้องร่วงได้เช่นกันคุณปิยะวัฒน์ วงษ์แก้ว เกษตรกรหนุ่ม ผู้ขยายพันธุ์มะเดือฝรั่งสร้างรายได้
ของ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี อดีตเคยทำงานบริษัทขายปุ๋ยเอกชน มานานกว่า 10 ปี แต่ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรเพราะอยากมีอาชีพเป็นของตัวเอง เริ่มด้วยการปลูกชวนชมส่งขายเป็นไม้ประดับ แต่ระยะหลังเศรษฐกิจการค้าขายไม้ชวนชมไม่ดี จึงมองหาไม้อื่นมาเพิ่มเติมภายในสวน ได้ค้นคว้าหาข้อมูลจากหนังสือและเว็บไซต์ พบว่ามะเดื่อฝรั่งหรือชื่อฟิกส์ กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมต้นไม้ มีให้เลือกสะสมมากกว่า 1000 สายพันธุ์ อีกทั้งผลสดนิยมนำมารับประทาน ซึ่งถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงที่สุดในโลกด้วยวิธีการปลูกมะเดือฝรั่ง
จะใช้กิ่งตอนมาปลูกลงในกระถางวัสดุที่ใช้ควรโปร่งและระบายน้ำได้ดีเก็บความชื้นได้ สามารถปลูกได้ทุกสภาพดิน รดน้ำเพียงครั้งเดียว จากนั้นใช้ถุงพลาสติกมาคลุมกระถาง ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อช่วยในการเก็บความชื้น พี่ปิยะวัฒน์ ยังมีอีกหนึ่งเทคนิค ด้วยการใช้ดินใบก้ามปูมาผสมกับเปลือกมะพร้าวสับเล็ก รองที่ก้นกระถางเพื่อช่วยให้รากมีการเดินดี พออายุครบ 3 เดือน ก็จะปาดตา หรือเสียบยอดติดกับต้นตอเพื่อขยายพันธุ์เพิ่ม ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ก็จะแตกตา นำมาอนุบาลดูแล อีก 30 วัน ได้ต้นสูงประมาณ 10-15 ซม. ก็สามารถขายได้ราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ราคาแตกต่างตามสายพันธุ์ และพี่ปิยะวัฒน์ เตรียมต่อยอด ขายผลสดของลูกมะเดื่อ ทำเป็นสินค้าระดับพรีเมียม และจะขยายช่องทางการตลาดเปิดขายทางออนไลน์อีกด้วย เรื่องแสงแดดไม่ควรให้มะเดื่อโดนแดดทั้งวัน ควรให้โดนแดดได้ช่วงเวลา 07.00-08.00 และ 17.00-18.00 จะเป็นเวลาที่เหมาะเพราะเป็นแดดอ่อนๆ ไม่แรงมากไป หากให้แดดทั้งวันอาจทำใบไหม้เกรียมได้การปลูกมะเดื่อฝรั่งในวงบ่อ
เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งวิธีการปลูกทำได้โดยการนำกิ่งตอนที่มีรากขึ้นเต็มแล้วมาย้ายลงกระถางขนาด 5 นิ้ว โดยในกระถางจะมีกาบมะพร้าวสับ 1 ส่วน และขุยมะพร้าว 2 ส่วน และเมื่อรากเดินเต็มกระถางก็ให้ย้ายลงวงบ่อขนาด 80 ซม. และไม่ต้องรองพื้น เพราะเมื่อรากเดินเต็มวงบ่อแล้วรากใหญ่จะแทงลงดินเพื่อหาอาหารต่อไป โดยในวงบ่อจะใช้วัสดุปลูกที่ประกอบไปด้วย กาบมะพร้าสับ 1 กระสอบ ขุยมะพร้าวครึ่งกระสอบ ร่วมด้วยมูลวัว แล้วผสมคลุกเคล้ากัน หลังจากนั้นนำต้นมะเดื่อฝรั่งลงปลูก การขายมะเดื่อฝรั่งเชิงพาณิชย์ในประเทศไทยสามารถขายได้ทั้งกิ่งพันธุ์และขายผล ซึ่งทั้ง 2 อย่าง มีราคาสูงเป็นอย่างมาก เนื่องจากผลมะเดื่อฝรั่งขายได้ถึงราคากิโลกรัมละ 600 บาทประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่ง
- ช่วยบำรุงร่างกาย และต่อต้านอนุมูลอิสระ- มะเดื่อเป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะมีเส้นใยสูง
- มะเดื่อเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง มีคอเลสเตอรอลและไขมันน้อยมาก ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคตับ จึงรับประทานได้
- ช่วยคงความอ่อนเยาว์ และชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
- มะเดื่อมีแคลเซียม เหล็ก และฟอสฟอรัสสูง จึงช่วยเสริมสร้างซ่อมแซมและเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ
- ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- มะเดื่อเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยลด
- มะเดื่อฝรั่ง สรรพคุณช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ
- สรรพคุณของมะเดื่อ ช่วยสมานแผลในช่องปาก
- มะเดื่อเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยในขับถ่ายและกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย
สรรพคุณมะเดื่อ ใช้เป็นยาระบาย ป้องกันอาการท้องผูก
ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ช่วยป้องกันนิ่วในไต และกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ช่วยฟอกตับ และม้าม
ช่วยบรรเทาอาการของโรคกามโรค
เชื่อว่ามีลูกมะเดื่อสามารถช่วยเสริมสร้างพลังทางเพศ
ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งเต้านมในหญิงวัยทอง
ในประเทศอินเดียนิยมใช้ใบมะเดื่อมารับประทานเป็นอาหาร
ประโยชน์มะเดื่อ เปลือกของมะเดื่อสามารถนำมาใช้แทนน้ำตาลได้
ประโยชน์ของมะเดื่อ นอกจากจะใช้รับประทานเป็นผลไม้สดแล้ว ยังสามาถนำมาใช้ทำขนมได้อีกด้วย เช่น พาย แยม อบแห้ง ผลไม้กวน พุดดิ้ง เค้ก ไอศกรีม ใช้ผสมในชาไข่มุก ใส่ขนมแทนลูกเกด ผลแห้งนำไปคั่วแล้วนำมาป่นใช้แทนกาแฟ เป็นต้น
ที่มา http://www.oknation.net/blog/horti-asia/2013/10/14/entry-1
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น